นำนวัตกรรมยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาฯ ก้าวสู่โลกใหม่แบบ Smart Property

              อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกในขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ นั่นคือ ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน และมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ของสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนเกินคาดเดา สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอสังหาฯโดยตรง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนที่มาพร้อมความคาดหวังใหม่ ๆ ของผู้บริโภค จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศกำลังมุ่งเน้นการลงทุนไปที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ที่สามารถเข้ามาช่วยยกระดับธุรกิจด้านอสังหาตามแนวทางของการเป็น Smart Property เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมอสังหาและช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนได้เป็นอย่างดีมีอะไรบ้าง มาพบคำตอบกัน

มอบประสบการณ์ใหม่ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

              อันที่จริงแล้ว Smart Property ไม่ใช่เรื่องใหม่ แนวคิดนี้คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม ซึ่งในช่วงระยะที่ผ่านมาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่ความเป็น Smart Property กันแล้ว ตั้งแต่เรื่องของ

              1. Smart Homes Smart Home หรือ บ้านอัจฉริยะ คือ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยเข้าไปใส่ภายในบ้าน เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต อีกทั้งยังเพิ่มความอุ่นใจให้แก่สมาชิกในครอบครัวผ่านนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยดูแลบ้าน

              โดยบ้านอัจฉริยะสามารถเริ่มได้ตั้งแต่การออกแบบบ้าน อย่างการคำนวณหาทิศทางของลมและแสงธรรมชาติ เพื่อทำการเจาะช่องหน้าต่าง หรือช่องแสง จะช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านมีความปลอดโปร่งมากขึ้น ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยให้บ้านเย็น เช่น การใช้สีทาภายนอกแบบสะท้อนรังสียูวี การเลือกติดตั้งกระจกเคลือบสารสะท้อนรังสียูวี การเพิ่มช่องระบายอากาศและปูด้วยฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนที่ตกกระทบหลังคาเข้าไปสู่ตัวบ้านได้ เป็นต้น

              มาถึงเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเลือกนำมาติดตั้งกันบ้าง ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมารองรับความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น อย่างการติดตั้งระบบ Digital Door Lock ที่ประตู และการติดตั้งสัญญาณกันขโมย ที่ไม่เพียงส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่บริเวณประตูหรือหน้าต่างเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนถึงเจ้าของบ้าน และหน่วยงานรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

  • เทคโนโลยีตรวจสอบบุคคลภายนอกสำหรับสมาชิกทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องอยู่บ้านเพียงลำพังในตอนกลางวัน โดยหลักการใช้งานจะเป็นการทำงานผ่านกล้องวงจรปิด ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ทราบว่า มีแขกท่านใดมาเยี่ยมในตอนกลางวัน และสามารถสั่งเปิดประตู หรือปฏิเสธได้ทันที โดยที่ไม่ต้องออกไปนอกบ้าน
  • เทคโนโลยีระบบไฟอัตโนมัติ ที่จะส่องสว่างในยามกลางคืน โดยเฉพาะไฟบริเวณที่จอดรถ และหน้าบ้าน เพื่อให้การกลับบ้านยามค่ำคืนมีความปลอดภัยมากขึ้น
  • เทคโนโลยีไฟนำทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ หรือเดินภายในบ้านตอนกลางคืน ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องคลำหาสวิตช์ไฟ และไม่ต้องกังวลว่าจะสะดุดสิ่งกีดขวางหกล้ม โดยระบบไฟจะถูกติดตั้งไว้ตามทางเดิน และจะส่องสว่างเมื่อมีบุคคลเดินผ่าน เพื่อนำทางให้สมาชิกภายในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เดินเข้าห้องน้ำ หรือเดินไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย

              2. 3D และเทคโนโลยีโลกเสมือน ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอสังหาฯ พึ่งพาเทคโนโลยี 3D และเทคโนโลยีโลกเสมือนกันมากขึ้น โดยนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบโครงสร้างอาคาร การออกแบบภายใน การปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การหาแนวทางในการบำรุงรักษาส่วนต่าง ๆ ของอาคาร การนำเสนอและแสดงตัวอย่างที่เหมือนจริงต่อหน่วยงานของภาครัฐเพื่อทำการขออนุญาตก่อสร้าง ไปจนกระทั่งถึงการนำเสนอและแสดงตัวอย่างที่เหมือนจริงต่อลูกค้านักลงทุน

              3. เทคโนโลยี All in One เทคโนโลยีที่จะช่วยทั้งฝั่งผู้ประกอบการและลูกค้าของธุรกิจให้บริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ในที่เดียว โดยมีการนำใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาปรับใช้ ซึ่งสามารถที่จะเข้ามาช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารจัดการสินทรัพย์ให้กับผู้ประกอบการเอง ขณะเดียวกันก็สามารถมอบประสบการณ์ความสะดวกสบายใหม่ให้กับลูกค้าของธุรกิจได้ด้วย

              การเปลี่ยนแปลงและก้าวไปสู่การเป็น Smart Property เช่นนี้ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในหลายด้าน แต่ข้อได้เปรียบหลักเลยก็คือ สามารถที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าของกลุ่มธุรกิจได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • ช่วยให้ควบคุมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย
  • ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคไปได้มาก เพราะเมื่อลดการใช้พลังงานได้มาก ก็ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เป็นต้น

              4. เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการให้บริการที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความใส่ใจ เพราะความพร้อมด้านการจัดการพื้นที่ใช้สอย และความทันสมัยน่าใช้งานของฟังก์ชันต่าง ๆ นั้นยังไม่เพียงพอ อาคารสำนักงาน และโครงการที่อยู่อาศัยต้องพึ่งพาระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความทันสมัย เพื่อสร้างความเชื่อมันให้แก่กลุ่มลูกค้าด้วย

              โดยเราสามารถยกตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยให้เห็นภาพได้ง่าย ๆ ยกตัวอย่างเช่น คีย์การ์ดที่เราใช้เข้า-ออกอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม หรือสถานที่ต่าง ๆ ก็นับเป็นหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัยที่นิยมใช้ เพียงแต่ในยุคปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ปลอดภัยและรัดกุมมากขึ้น อย่างระบบจดจำใบหน้า ที่เริ่มมีการนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายในอาคารสำนักงาน และโครงการที่อยู่อาศัยชั้นนำ ทั้งระบบ Facial Recognition และระบบ Facial Verification ซึ่งมีการทำงานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ซื้อว่าต้องการความเข้มงวดระดับใด นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ อีกดังต่อไปนี้

  • ระบบแจ้งเตือนภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับความร้อน ตรวจจับควัน ตรวจจับการรั่วของกระแสไฟฟ้า และตรวจจับน้ำที่รั่วซึมออกมาจากท่อ เมื่อเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งเอาไว้สัมผัสได้ถึงความผิดปกติจะส่งสัญญาณแจ้งเตือน เพื่อให้มีการเข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที
  • ระบบติดตามบุคคลภายนอก เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันระหว่างกล้องวงจรปิด กับระบบจดจำใบหน้า ใช้สำหรับติดตามบุคคลภายนอกที่เข้ามาภายในสถานที่ ว่าได้เดินไปที่ใดบ้าง ติดต่อพูดคุยกับใคร และทำการบันทึกเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เราสามารถค้นหาย้อนหลังไปได้ว่ามีใครบ้างที่เข้ามาภายในสถานที่
  • ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือระบบ Magnetic & Shock Sensor กับระบบ Magnetic & Motion Sensor ทั้ง 2 ระบบนี้จะไม่เพียงส่งสัญญาณเตือนเสียงดังเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปถึงหน่วยงานรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเหตุที่จะส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปถึงทีมแพทย์ หรือหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้อายุ หรือครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านมีโรคประจำตัว โดยตัวส่งสัญญาณจะถูกติดตั้งในพื้นที่ที่ผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุใช้งานเป็นประจำ หรือติดเอาไว้ข้างเตียง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน

Digital Twins นวัตกรรมเพื่อมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมอสังหาฯ

              เราได้เห็นโฉมหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีบทบาทต่ออุตสาหกรรมอสังหาฯ ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันกันแล้ว หากมองไปข้างหน้าสู่อนาคต เทคโนโลยีที่คาดว่าจะทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ก็คือ Digital Twins ซึ่งอาจจัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่อยู่ในกลุ่มของ 3D และเทคโนโลยีโลกเสมือน คุณสมบัติและความสามารถของ Digital Twins นั้นจะมีผลอย่างมากต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกทั้งยังจะมีบทบาทมากในฐานะของนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอสังหาฯ ให้ก้าวสู่ Smart Property อย่างสมบูรณ์

              สิ่งที่น่าจับตามองสำหรับเทคโนโลยี Digital Twins ก็คือ จะเป็นนวัตกรรมที่มีส่วนช่วยผู้ประกอบการในการลดต้นทุนทางธุรกิจ อุปสรรคใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ก็มักจะเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายในการแก้ไขงานสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ถือว่าเป็นต้นทุนที่สูงมากสำหรับผู้ประกอบการ จากการสำรวจแนวโน้มในอุตสาหกรรมอสังหาฯ เชิงพาณิชย์ของ Deloitte พบว่าอัตราแผนการลดต้นทุนธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ จะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 33% ซึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ มีแผนจะลดต้นทุนเพียงแค่ 6% เท่านั้น อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่ลดลงตามสถานการณ์ตลาดที่ซบเซา[1] ซึ่งนั่นหมายความว่าองค์กรเหล่านี้จะมีการปรับลดการลงทุนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลลงไปด้วย เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่มุมมองนี้อาจเป็นมุมมองที่ตรงข้ามกับกลุ่มองค์กรด้านอสังหาฯ ชั้นนำระดับโลก

[1] Jeffrey J. Smith, Kathy Feucht, Sally Ann Flood and Tim Coy. “2023 commercial real estate outlook”, From: https://www2.deloitte.com/us/en/insights/industry/financial-services/commercial-real-estate-outlook.html

              กลุ่มองค์กรชั้นนำในธุรกิจอสังหาฯ มีมุมมองว่า เทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาฯ และจะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ในการประกอบการที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยเฉพาะ Digital Twins ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอสังหาฯ สามารถที่จะบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจได้ดีขึ้น เพราะเทคโนโลยีคู่แฝดนี้จะช่วยสร้างแบบจำลองเสมือนจริงขึ้นมา ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการสามารถมองเห็นได้ว่าสินทรัพย์ที่จะลงทุนพัฒนานั้นรูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไร มีโครงสร้างส่วนไหนของอาคารที่เสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติมได้ หรือมีส่วนไหนที่ยังคงบอบบาง อ่อนไหว ต้องแก้ไขเพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดในการก่อสร้างและออกแบบอาคาร รวมไปถึงการออกแบบภายในต่าง ๆ จะสะดวกสบายตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงได้มากน้อยเพียงใด การมีแบบจำลองเสมือนจริงเช่นนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้มากมาย และเมื่อโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ไม่มีความผิดพลาดและตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างเข้าถึง นั่นย่อมหมายถึงองค์กรจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงไปได้มาก ขณะเดียวกันก็จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นด้วย

              อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้คน ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาจึงควรอย่างยิ่งที่จะมุ่งเน้นในเรื่องของประสบการณ์การอยู่อาศัย ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ และสิ่งที่จะช่วยตอบโจทย์ผู้ประกอบการในเรื่องนี้ได้ดีก็คือ เทคโนโลยีนวัตกรรม และ AIS Business ก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เสมอ ด้วยแนวคิดเติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันรูปแบบใหม่ ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี รวมถึง 5G Ecosystem ที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์การเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานกับเทคโนโลยีนวัตกรรมรูปแบบต่าง ๆ ของภาคธุรกิจ อันจะช่วยทำให้ภาคธุรกิจอสังหาสามารถก้าวไปสู่การเป็น Smart Property ได้อย่างสมบูรณ์แบบตามเป้าหมายที่วางไว้ และสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจหรือบริการใหม่ที่เกี่ยวข้องในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่เผยแพร่ 12 กรกฎาคม 2566

Reference

  1. Bogdan Nicoara. How This Technology Will Transform Commercial Real Estate in 2023. Form : https://www.entrepreneur.com/starting-a-business/this-tech-will-transform-commercial-real-estate-in-2023/440197
  2. Cassandra Charlesworth. The big PropTech trends of 2023. Form : https://eliteagent.com/the-big-proptech-trends-of-2023/
  3. Jeffrey J. Smith, Kathy Feucht, Sally Ann Flood, Tim Coy. 2023 commercial real estate outlook. Form : https://www2.deloitte.com/us/en/insights/industry/financial-services/commercial-real-estate-outlook.html

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที