ยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตด้วยเทคโนโลยี Cloud เริ่มต้นจากตรงไหนดี

              ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตเข้าสู่ยุค Internet of Things หรือเทคโนโลยี IoT กันแล้ว จุดสำคัญที่น่าสนใจไม่ใช่แค่เพียงเทคโนโลยี IoT ที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบการผลิตเท่านั้น แต่เบื้องหลังที่เป็นเทคโนโลยีอันเป็นศูนย์กลางสำคัญในการเชื่อมต่อ เก็บข้อมูล และประมวลผลข้อมูลที่ส่งมาจากอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ อย่างเทคโนโลยี Cloud ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่รู้จักกับเทคโนโลยี Cloud กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว บางส่วนก็อาจเริ่มนำมาปรับใช้กับธุรกิจ แต่ก็มีอีกหลายองค์กรที่มองเห็นประโยชน์และรับรู้ถึงคุณค่าของเทคโนโลยีนี้ว่า จะเข้ามาช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจช่วยยกระดับอุตสาหกรรมให้ไปสู่ Smart Manufacturingได้ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นวางแผนย้ายระบบการทำงานแบบเดิมไปสู่ระบบ Cloud อย่างไร ถึงจะเกิดความคุ้มค่าเหมาะสม คำแนะนำในเรื่องนี้ก็คือ

1. พิจารณาความพร้อมในแต่ละด้าน

              ก่อนจะเริ่มต้นลงทุนหรือวางแผนย้ายระบบการทำงานแบบเดิมไปสู่ระบบ Cloud ผู้ประกอบการควรจะต้องเริ่มจากการพิจารณาความพร้อมของตนเองในแต่ละด้านก่อน ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วสิ่งที่จะต้องพิจารณามีอยู่ด้วยกัน 3 ด้านคือ

              1.1 โครงสร้างพื้นฐาน เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีขององค์กร ต้องพิจารณาว่าในขณะนี้มีประสิทธิภาพแค่ไหน ตอบโจทย์การทำงานดีแล้วหรือยัง มีส่วนที่ขาดตกบกพร่องหรือช่องโหว่ตรงไหนหรือไม่ และที่สำคัญโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันพร้อมสำหรับการย้ายการทำงานไปสู่ระบบ Cloud หรือไม่ หากว่าระบบเดิมนั้นยังไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Cloud ก็อาจจะต้องทำการปรับปรุงหรือแก้ไขให้สมบูรณ์ก่อน หรือถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไปพร้อม ๆ กันเลย ก็ควรจะหาที่ปรึกษาเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในเรื่องการปรับปรุง Infrastructure และการวางระบบ Cloud ในอุตสาหกรรมเข้ามาช่วยให้คำแนะนำก่อนตัดสินใจ

              1.2 บุคลากร อีกจุดหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกันก็คือ ความพร้อมของบุคลากรในองค์กร ในบางครั้งอุปสรรคในการย้ายระบบไปยัง Cloud อาจไม่ใช่เรื่องของโครงสร้างพื้นฐานหรือเทคโนโลยี แต่เป็นส่วนของ “บุคคล” หากว่าบุคลากรไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง การลงทุนย้ายระบบการทำงานไปบน Cloud ก็อาจไม่ทำให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุดอย่างที่ต้องการ ยิ่งโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตที่บุคลากรจำนวนไม่น้อยที่ต้องทำงานกับเครื่องจักรการผลิต ซึ่งบุคลากรเหล่านี้จะมีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญในระบบเครื่องจักรและการผลิตในรูปแบบเดิม หากมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็น Smart Manufacturing นำเทคโนโลยี IoT ที่ต้องทำงานบน Cloud มาใช้ อาจทำให้พนักงานไม่คุ้นเคย ดังนั้นจึงควรมีการแนะนำหรือฝึกอบรมบุคลากรให้พร้อมสำหรับการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเริ่มลงทุน

              1.3 เงินทุน หลายองค์กรอาจติดปัญหาเรื่องเงินลงทุนในการเปลี่ยนแปลงยกระดับมีจำกัด จริง ๆ แล้วในส่วนนี้ก็มีทางออกอยู่ เนื่องจากระบบ Cloud เป็นเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถเลือก Scale ตามความต้องการใช้งานหรือตามงบการลงทุนได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพื่อจัดสรรทรัพยากรไว้ล่วงหน้าโดยที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดความสิ้นเปลือง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรพิจารณาให้ดีว่าต้องการเปลี่ยนแปลงในงานส่วนไหนบ้าง และงบประมาณสอดรับหรือไม่ ถ้างบประมาณยังไม่พร้อมก็อาจเลือกลงทุนในส่วนที่จำเป็นไปก่อนก็ได้ เมื่อมีงบลงทุนมาเพิ่มค่อยมาอัปเกรดขยาย Scale ระบบออกไปก็ยังไม่สายเกินไป

2. วางเป้าหมายให้ชัดเจน

              ประการต่อมา หากจะโยกย้ายระบบมายัง Cloud สิ่งสำคัญเลยก็คือ ผู้ประกอบการควรจะต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่า ต้องการประสิทธิภาพหรือผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับการทำงานในเรื่องใดบ้าง เช่น

  • ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพระบบ Web Applications หรือ ระบบ Sync/Share ไฟล์ทั่วไปที่เป็นระบบการทำงานพื้นฐานที่ยังไม่เกี่ยวข้องกับระบบการผลิตโดยตรง แบบนี้สามารถที่จะเลือกลงทุนระบบ Cloud เพียงส่วนพื้นฐานตามความต้องการในการใช้งานได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนทั้งระบบ เพราะเท่านี้ก็เพียงพอต่อการที่ย้ายฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานหลัก ๆ ไปบน Cloud แล้ว
  • ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการผลิตโดยตรง คือต้องการที่จะเชื่อมโยงการทำงานของอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ในระบบการผลิตให้กลายเป็น IIoT อย่างเต็มรูปแบบ แบบนี้ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกลงทุนระบบ Cloud ให้ครอบคลุมไปยัง Infrastructure ทั้งหมดขององค์กรเลย เพราะโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีที่เหมาะสมจะช่วยทำให้บูรณาการเรื่องประสิทธิภาพการทำงานความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้ครอบคลุมนั่นเอง

              การวางเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการกำหนดงบประมาณในการลงทุนได้ง่ายมากขึ้น และจะทำให้เลือกลงทุนได้อย่างถูกต้อง ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า สามารถสร้างประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้อย่างที่ต้องการ

3. หาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเทคโนโลยี

              ประการสุดท้ายจัดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตไม่ควรมองข้ามไป เพราะแม้คุณจะมีความรู้ความชำนาญในอุตสาหกรรมที่ทำ แต่การเปลี่ยนแปลงย้ายระบบการทำงานเดิมไปสู่ Cloud เป็นกระบวนการหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่การเป็น Smart Manufacturing แบบเต็มตัว นั่นหมายความว่ามีเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานมากมายที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะอาศัยเพียงบุคลากรขององค์กรก็คงจะไม่เพียงพอ เนื่องจากกระบวนการย้ายการทำงานไปสู่ระบบ Cloud มีความซับซ้อนอยู่พอสมควร นอกจากนั้นแล้วปัญหาหลัก ๆ เลยที่ผู้ประกอบการส่วนมากจะต้องเผชิญตั้งแต่เริ่มแรกเลยก็คือ

  • ไม่สามารถประเมินความต้องการระบบ Cloud ภายในองค์กรได้ จึงทำให้ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลงทุนในส่วนไหนบ้าง ควรเลือกลงทุนระบบในปริมาณหรือขนาดเท่าไหร่ และควรเลือกระบบ Cloud แบบไหนถึงจะปลอดภัยและสอดรับกับรูปแบบการทำงานขององค์กร
  • ไม่สามารถประเมินต้นทุนการบริการระบบ Cloud จากผู้ให้บริการได้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงค่าใช้จ่ายในการย้ายระบบข้อมูลไปบน Cloud ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต้นทุนในส่วนนี้

              สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงตอกย้ำว่า กระบวนการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตจากระบบเดิมไปสู่ระบบใหม่ที่ทำงานบน Cloud จึงควรมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของบริษัทและองค์กรที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี การให้บริษัทที่เชี่ยวชาญและมีเทคโนโลยีที่พร้อมเข้ามาเป็นพันธมิตรช่วยให้คำปรึกษา แนะนำตั้งแต่เริ่มต้นวางแผน ก็จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกำหนดทิศทางการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

              AIS Business ก็พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรที่ช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมยกระดับสู่การเป็น Smart Manufacturing อย่างเต็มตัว ด้วยเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์มโซลูชันอันหลากหลาย ทั้งโซลูชันคลาวด์ บริการด้าน Cyber Security และบริการ IoT ที่ออกแบบไว้เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมการผลิตและทุกองค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ โดยล่าสุดได้เปิดตัว “AIS Cloud X” ระบบนิเวศคลาวด์อัจฉริยะ ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการคลาวด์ได้อย่างยืดหยุ่น รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ พร้อมที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมของไทย ให้ก้าวไปสู่ศักยภาพใหม่ที่สดใสและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIS Cloud X ได้ที่ https://www.ais.th/business/enterprise/technology-and-solution/cloud-and-data-center

วันที่เผยแพร่ 17 พฤศจิกายน 2565

Reference

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที