ภาคการผลิตถึงเวลาปรับกลยุทธ์ สู่ Smart Manufacturing อย่างเต็มรูปแบบ

              ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติของอุตสาหกรรมการผลิต การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเร่งตัวเองมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนในหลาย ๆ ด้านที่ส่งผลให้อุปสงค์เกิดความไม่แน่นอน ด้วยหลากหลายปัจจัยนี่เอง ที่ทำให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่างตัดสินใจ Transform ธุรกิจสู่ความเป็นดิจิทัล เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและให้เพื่อธุรกิจยืดหยุ่นต่อความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น การเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมการผลิตดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนในวันนี้หลายองค์กรได้ยกระดับตนเองไปสู่การเป็น Smart Manufacturing อย่างเต็มตัว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่องค์กรของคุณควรเดินหน้าสู่ Smart Manufacturing เพื่อสร้างศักยภาพใหม่ในการแข่งขันบ้าง

พลิกโฉมโลกการผลิตด้วยเทคโนโลยีสุด Smart

              จริงอยู่ว่าผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมการผลิตแทบทั้งหมดได้ Transform สู่ดิจิทัลแล้ว แต่อย่างไรก็ดีก็มีหลาย ๆ องค์กรที่ยังไม่รู้ว่าก้าวต่อไปที่จะมุ่งสู่ความเป็น Smart Manufacturing จะต้องทำอย่างไร เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ที่มีเข้ามาต้องเลือกใช้อย่างไรถึงจะเหมาะสม แต่ละเทคโนโลยีจะมีบทบาทช่วยพลิกโฉมธุรกิจการผลิตของตนเองได้อย่างไรบ้าง ดังนั้นเราจะมาสรุปให้ได้ทราบกัน

              1. ปัญญาประดิษฐ์(AI) วันนี้เทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ได้หลาย ๆ ด้านแล้ว แต่ที่น่าจับตามองอย่างมากก็คือ AI จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมการผลิตนับจากนี้เป็นต้นไป องค์กรต่าง ๆ ในภาคการผลิตจะมีการนำ AI มาประยุกต์ใช้สำหรับการสร้างแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูล เทคโนโลยี AI จะเข้ามาช่วยออกแบบโครงสร้างข้อมูล จัดลำดับความสำคัญของข้อมูล เพื่อลดความซับซ้อน หลังจากนั้นก็จะทำการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลออกมา อันจะกลายเป็นข้อมูลตกผลึกที่มีคุณค่าที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้เพื่อวางแผนการผลิตและการตัดสินใจในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งการใช้ AI เข้ามาช่วยในการวางแผนการผลิตเช่นนี้จะถือว่าเป็น “การวางแผนผลิตแบบอัจฉริยะ” (Smart Planning) นั่นเอง

              นอกจากนั้นแล้ว AI ยังสามารถนำมาใช้ในกระบวนการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์หลังการผลิตได้ด้วย โดยประยุกต์ AI เข้ากับเทคโนโลยี Vision Systems ให้มีการสแกนและวิเคราะห์สินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว ว่ามีความบกพร่องตรงจุดไหนบ้างหรือไม่ ซึ่งการประยุกต์เทคโนโลยี AI ในรูปแบบดังกล่าวนี้สามารถใช้ได้กับการผลิตสินค้าทุกชนิด แต่จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอาหาร เพราะจะช่วยให้สินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพและมีความปลอดภัยตามที่ต้องการ

              2. IoT เทคโนโลยีที่จะช่วยให้อุปกรณ์เครื่องจักรในระบบการผลิต รวมไปถึงระบบลำเลียงสินค้าจากการผลิตสามารถที่จะเชื่อมต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ อาจจะมีศูนย์กลางควบคุมสั่งการผ่านระบบซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้ผู้ควบคุมดูแลสามารถสั่งการระบบได้ว่า ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์เมื่อไหร่ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดบ้าง หรือต้องตัดการเชื่อมต่อเมื่อไหร่ โดยการควบคุมสั่งการนี้จะเป็นไปอย่างเรียลไทม์ ซึ่งไม่ว่าผู้ประกอบการจะมีโรงงานการผลิตกี่แห่ง ทั้งหมดนี้ก็สามารถดูแลบริหารจัดการได้จากที่เดียว

              3. Cloud & Edge Computing Cloud & Edge Computing จัดว่าเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยสร้างรูปแบบการดำเนินการผลิตแบบ Smart Operation ให้เกิดขึ้นมาได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างที่เราทราบดีว่ากระบวนการผลิตสินค้าของภาคอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่จะมีขั้นตอนมากมายหลายขั้นตอน จากสายการผลิตที่ 1 จะส่งต่อกันไปสู่สายการผลิตที่ 2 และ 3 เป็นแบบลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเกิดเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้สอยและได้คุณภาพ การดำเนินการในแต่ละขั้นตอนตรงนี้จะต้องอาศัยตัวแปรมากมายในการควบคุมเครื่องจักรการผลิต หากหน่วยการผลิตใดระบบมีความขัดข้อง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการดำเนินการผลิตทั้งหมดได้ ซึ่งการใช้เทคโนโลยี Cloud & Edge Computing เข้ามาช่วยในส่วนนี้ ก็จะทำให้เป็นการลดอุปสรรคความผิดพลาดในการดำเนินการผลิตของเครื่องจักรได้ โดยการประมวลผลแบบ Edge Computing จะช่วยลดเวลาแฝงที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมต่อระยะไกลได้ ทำให้การส่งต่อข้อมูลเพื่อการเชื่อมต่อแบบ IoT ของเครื่องจักรในหน่วยการผลิตต่าง ๆ สามารถที่จะทำงานแบบอัตโนมัติได้ราบรื่นมากขึ้น เมื่อข้อมูลจำนวนมากมีการส่งผ่านกันได้เร็วขึ้น ก็จะเป็นการลดภาระการทำงานบน Cloud ซึ่งทำให้ Cloud ที่เปรียบเสมือนศูนย์ข้อมูล สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

              อย่างไรก็ดีปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Cloud & Edge Computing แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ก็คือ เครือข่าย 5G เพราะ 5G มีความเสถียร เร็ว และสามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน เครือข่าย 5G จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้เชื่อมต่อประมวลผลข้อมูลจำนวนมากสำหรับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในปัจจุบันผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมการผลิตในมีการ Transform ธุรกิจเพื่อรองรับการทำงานของ 5G อย่างเต็มระบบกันมากขึ้น เห็นได้จากยอดการใช้งาน AIS 5G ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ขยายตัวมากขึ้นราว 40% จากปี 2022 [SE1] [WG2] และในปี 2023 นี้ AIS Business ก็ยังคงวางเป้าหมายที่จะเดินหน้าต่อ ภายใต้แนวคิด “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” (Growth-Trust-Sustainability) โดยยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนา 5G Ecosystem เพื่อการทำงานของภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 [SE1] ขอทราบแหล่งที่มาของข้อมูล
 [WG2] ข้อมูลเอามากจากลิงก์นี้ครับ https://business.ais.co.th/news-activities/en/ais-business-direction-2023-ltman.html

บรรทัดฐานของการผลิตอัจฉริยะคือการสร้างความยั่งยืน

              การเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็น Smart Manufacturing ไม่ใช่แค่เพียงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้สำหรับการยกระดับการผลิตเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยสร้างความปลอดภัยและความยั่งยืนให้กับภาพรวมของอุตสาหกรรมการผลิตด้วย ขณะนี้มีความกังวลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตสินค้าต่าง ๆ ขณะเดียวกันทางฝั่งของพนักงานก็มีการเรียกร้องให้องค์กรตระหนักถึงเรื่องของความปลอดภัยในกระบวนการทำงานและผลกระทบที่เกี่ยวกับสุขภาพ รวมไปถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย ในจุดนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งฉากของความท้าทายที่เกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตในวันนี้ และสิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่ทางออกก็คือ เทคโนโลยีดิจิทัล

              ภาคการผลิตจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมศักยภาพการเชื่อมโยงข้อมูล โดยจะต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทั้งหมดในแบบบูรณาการ เพื่อให้เทคโนโลยีสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการสายการผลิตทั้งหมดอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่

  • การออกแบบและวางแผนการผลิต
  • การปฏิบัติการผลิต
  • การใช้ทรัพยากรและพลังงานในการผลิต
  • ความปลอดภัยในการผลิต
  • ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหลังการผลิต

              จะเห็นได้ว่าการที่จะต้องบริหารจัดการทุกด้านอย่างครอบคลุมนี้ ต้องอาศัยขีดความสามารถอย่างสูง ซึ่งการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลอันหลากหลาย จะช่วยให้การบริหารจัดการทุกเรื่องเหล่านี้เป็นไปได้ และเมื่อสามารถที่จะดูแลบริหารจัดการอย่างครอบคลุมได้ ก็จะเป็นก้าวสำคัญที่นำภาคการผลิตไปสู่ความยั่งยืนในธุรกิจ

              การ Transform ธุรกิจการผลิตไปสู่ความเป็นดิจิทัลเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ถึงเวลาแล้วที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยจะต้องก้าวต่อไปสู่การเป็น Smart Manufacturing ที่ไม่เพียงจะมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ยังสามารถสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับธุรกิจได้ด้วย และ AIS Business ก็พร้อมสนับสนุนภาคการผลิตของไทยให้เดินหน้าไปสู่ Thailand Smart Manufacturing 4.0 ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการนำโครงข่ายอัจฉริยะ AIS 5G ผสานกับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชั้นนำ ทั้งจากในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้บริการ “5G Smart Manufacturing Solutions” และแพลตฟอร์ม “AIS 5G Manufacturing Platform” ที่จะทำให้การเข้าถึงข้อมูล การบริหารข้อมูล และการใช้งานข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วมากขึ้น เมื่อมีทั้งเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและประสบการณ์การดูแลลูกค้าภาคธุรกิจ เราจึงพร้อมตอบสนองการดำเนินงานของภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน

วันที่เผยแพร่ 30 สิงหาคม 2566

Reference

  1. Datacenters.com Colocation, “Tech Predictions for the Data Center Industry in 2023.”, From: https://www.datacenters.com/news/tech-predictions-for-the-data-center-industry-in-2023
  2. Datacenters.com Technology, “How Artificial Intelligence can Help Streamline Production for Organizations” From: https://www.datacenters.com/news/how-artificial-intelligence-can-help-streamline-production-for-organizations
  3. McKinsey & Company, “Transforming advanced manufacturing through Industry 4.0.”, From: https://www.mckinsey.com/capabilities/operations/our-insights/transforming-advanced-manufacturing-through-industry-4-0
  4. Phani Bhushan Sistu, “How can manufacturers accelerate the adoption of Industry 4.0.”, From: https://www.themanufacturer.com/articles/how-can-manufacturers-accelerate-the-adoption-of-industry-4-0/

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที