บทบาทของ 5G ในการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ Enterprises

              ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยี 5G เป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีและนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอีกมากมาย อาจเรียกได้ว่า 5G เป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจในวันนี้ไปแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าองค์กร Enterprises จำนวนไม่น้อย มีความเข้าใจต่อเทคโนโลยี 5G เพียงแค่ว่ามอบความเร็วในการเชื่อมต่อที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังไม่เข้าใจในเชิงลึกว่า 5G จะมีบทบาทและสามารถนำมาสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจระดับ Enterprises ได้อย่างไร ลองมาทำความเข้าใจในประสิทธิภาพรวมถึงบทบาทที่สำคัญที่จะมีต่อภาคธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของ 5G ไปพร้อม ๆ กันเลย

5G เครือข่ายทรงประสิทธิภาพและทันสมัย

              ก่อนที่จะไปเข้าใจกับบทบาทของ 5G ที่มีต่อธุรกิจในเชิงลึก ก็ควรเริ่มต้นกับการทำความเข้าใจเทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิมกันก่อน

  • 5G คือเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายในยุคที่ 5 (G เป็นตัวย่อของ Generation) ซึ่งมีประสิทธิภาพการเชื่อมต่อทั้งในแง่ของปริมาณและความเร็วที่ดีมากขึ้นกว่าเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายในยุคที่ 4 (4G)
  • 5G มีประสิทธิภาพในเรื่องความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลมากกว่า 4G ราว ๆ 20 เท่า
  • 5G มีความสามารถในเชื่อมต่อเครือข่ายขนาดใหญ่ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์นับล้านชิ้นในพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรได้
  • 5G มีค่าความหน่วงต่ำ ซึ่งจะดีเลย์ไม่เกิน1/1,000 วินาที หรือเร็วกว่าการกะพริบตาถึง 400 เท่า

              จากที่กล่าวมานี้จะทำให้เห็นได้ว่า 5G เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายที่ทรงประสิทธิภาพมากและจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับหลาย ๆ สิ่งที่อยู่รอบตัวเราทุกคน ในขณะเดียวกันก็จะช่วยยกระดับการดำเนินงานของภาคธุรกิจองค์กรให้มีความง่าย สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย

5G vs Wi-Fi อุตสาหกรรม Enterprises ควรเลือกโฟกัสไปที่เทคโนโลยีใด

              อันที่จริงแล้วเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้ง 2 ประเภทนั้น ล้วนมีบทบาทและความสำคัญต่อองค์กรธุรกิจด้วยกันทั้งสิ้น แต่หากจะกล่าวเจาะจงลงไปที่ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ก็คงต้องกล่าวว่า 5G เป็นสิ่งที่องค์กรภาคอุตสาหกรรมควรจับตาและโฟกัสการลงทุนไปที่เทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้น เพราะหากวิเคราะห์ในเรื่องของประสิทธิภาพเทียบกันระหว่างเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้ง 2 ประเภทนี้ทั้งในส่วนของการดาวน์โหลดและการเชื่อมต่อสัญญาณแบบเครือข่ายส่วนตัวสำหรับองค์กรธุรกิจ ต้องถือว่า 5G สามารถตอบโจทย์การทำงานของภาคอุตสาหกรรมได้ดีกว่า Wi-Fi โดยเฉพาะธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีสาขาหรือโรงงานมากมายทั้งในและต่างประเทศ ยิ่งมีความจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีเครือข่าย 5G มากกว่า Wi-Fi เพราะสามารถเชื่อมสัญญาณออกไปได้ไกล มีความปลอดภัยและมีความหน่วงน้อย ทำให้ระบบการผลิตและส่วนของ IoT ต่าง ๆ สามารถตอบสนองการทำงานได้แบบเรียลไทม์ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ 5G จึงเป็นสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมต้องให้ความสำคัญ

              แต่อย่างไรก็ดี โครงข่าย 5G ในองค์กรจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานขององค์กรในทุก ๆ ด้าน ก็จะต้องได้รับการออกแบบและวางระบบจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้วย ถึงจะทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่คาดหวังไว้

5G จะสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ Enterprises อย่างไรได้บ้าง

              จากประสิทธิภาพของ 5G ดังที่กล่าวมาข้างต้น องค์กรและธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สามารถที่จะนำไปประยุกต์ใช้สร้างคุณค่าและใช้เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันได้หลากหลาย ตั้งแต่

สร้างการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่ในพื้นที่โรงงาน

              ด้วยประสิทธิภาพความเร็ว ความสามารถในเชื่อมต่อเครือข่ายขนาดใหญ่ และความปลอดภัยที่มั่นใจได้ของ 5G ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมการผลิตสามารถนำไปใช้เป็นมาตรฐานใหม่ในการเชื่อมต่อเครือข่ายในพื้นที่โรงงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการผลิตที่ 5G จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อระบบ IIoT ระบบเซนเซอร์ IoT ต่าง ๆ จะทำการรับ-ส่งข้อมูลกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เครื่องจักรการผลิตสามารถดำเนินงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ลดความผิดพลาดในการผลิตได้ และยังสามารถที่จะลดปัญหาเรื่องเครื่องจักรการผลิตหยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุได้ด้วย เพราะการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูงทำให้ผู้ควบคุมดูแล สามารถที่จะรับข้อมูลที่ส่งมาจากเครื่องจักรและเซนเซอร์ IoT ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ทราบสถานการณ์ทำงานได้ตลอดเวลา และยังทำให้คาดการณ์ได้ด้วยว่าควรจะหยุดการผลิตเพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักรในตอนไหนถึงจะเหมาะสม เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เครื่องจักรเกิดความเสียหายหนักนั่นเอง

              นอกจากนั้นแล้วการเชื่อมต่อที่ทรงประสิทธิภาพด้วยพลังของ 5G ยังช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตสามารถที่จะวางแผนการใช้พื้นที่สำหรับการผลิตได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น หากต้องการเพิ่มอัตราการผลิต ผู้ประกอบการสามารถปรับพื้นที่บางส่วนของโรงงานเป็นส่วนการผลิตแห่งใหม่ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการมาวางระบบการเชื่อมต่อเครือข่ายใหม่อีกครั้ง ผู้ประกอบการสามารถที่จะขยายการเชื่อมต่อจากเครือข่าย 5G ที่มีอยู่ในสายการผลิตเดิมได้เลยทันที ทำให้เกิดความสะดวกและช่วยลดต้นทุนในการวางระบบใหม่ไปได้มาก เป็นต้น      

สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ

              ไม่เพียงแค่การนำมาใช้ต่อยอดจากธุรกิจเดิมได้เท่านั้น แต่คุณสมบัติในด้านต่าง ๆ ของ 5G ยังสามารถที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างโอกาสและรูปแบบใหม่ในการทำธุรกิจได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมโลจิสติกส์สามารถที่จะนำเซนเซอร์ IoT มาใช้ร่วมกับ 5G เพื่อระบุตำแหน่งของสินค้า ตำแหน่งของรถบรรทุกและสถานะของคนขับได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ทั้งบริษัทขนส่งและบริษัทคู่ค้าไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งหรือผู้รับก็ตาม สามารถที่จะติดตามตรวจสอบสถานะของการขนส่งได้แบบโปร่งใส ซึ่งกระบวนการที่รวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้เช่นนี้ สามารถที่จะใช้เป็นจุดขายและโมเดลใหม่ทางธุรกิจได้

              ธุรกิจในกลุ่ม Retail ก็สามารถนำประสิทธิภาพของ 5G ที่เชื่อมต่อได้กว้างไกล ครอบคลุม และรวดเร็วมาสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อสินค้าให้กับลูกค้าของร้านค้าได้ อย่างการเปลี่ยนร้านค้าธรรมดาให้เป็นร้านค้าอัจฉริยะในทุกสาขาทั่วประเทศ ที่ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องพกเงินสด ไม่ต้องรอต่อคิวชำระค่าสินค้าที่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ให้เสียเวลา ลูกค้าสามารถหยิบสินค้าและทำการสแกน QR Code เพื่อทำการชำระเงินผ่านระบบ Wallet แล้วเดินออกจากร้านค้าได้เลยทันที ในส่วนของชั้นวางสินค้าก็สามารถปรับให้เป็นชั้นวางสินค้าอัจฉริยะได้จากประสิทธิภาพของ 5G ชั้นวางสินค้าที่มีเซนเซอร์ IoT จะทำการแจ้งเตือนพนักงานทันทีเมื่อสินค้าในชั้นวางใกล้หมด พนักงานก็จะได้นำสินค้ามาเติมได้ทันเวลา ซึ่งเท่ากับว่าจะเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการจับจ่ายให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจได้นั่นเอง

              จะเห็นว่า 5G มีบทบาทและสามารถสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ Enterprises ได้มากมาย อยู่ที่การนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจมีความแตกต่างและมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้น

              AIS Business พร้อมสนับสนุนทุกองค์กร Enterprises ให้ก้าวต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยขุมพลังของ 5G ทั้งเทคโนโลยีและโซลูชันที่พร้อมตอบโจทย์ภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน และเครือข่าย AIS 5G ที่มีคลื่นมากที่สุด ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงทีมงานมืออาชีพที่พร้อมส่งมอบการให้บริการที่เป็นประโยชน์และครบวงจรให้กับภาคธุรกิจ เราจึงมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยก้าวเดินต่อไปสู่การแข่งขันที่ท้าทายในอนาคตได้อย่างเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

              AIS ในฐานะผู้นำในการพัฒนาเครือข่าย 5G จึงได้พัฒนา 5G Solutions เพื่อสนับสนุนทุกองค์กร Enterprises

  • Fixed Wireless Access (FWA): บริการที่ใช้ความสามารถของ 5G เพื่อตอบโจทย์การเชื่อมต่อขององค์กรแบบไร้สายด้วยศักยภาพของ 5G เรื่องความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ และการทำ QoSคือ การจัดลำดับความสำคัญของประเภทข้อมูลที่ผ่านเครือข่าย ซึ่งบนคลื่นความถี่เดิมไม่สามารถทำได้
  • Multi-Access EDGE Computing (MEC): การเพิ่มความสามารถให้ Cloud หรือนำหน่วยประมวลผล ติดตั้งในพื้นที่ที่ใกล้กับการใช้งานเพื่อลดระยะทางระหว่างอุปกรณ์
  • Network Slicing: นวัตกรรมใหม่ บน 5G สามารถควบคุมและจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสมในแต่ละความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละแอฟพลิเคชัน
  • 5G Private Network: เพื่อการใช้งานกับโซลูชันที่ต้องการความแม่นยำสูง โดยการสร้างเครือข่าย 5G เฉพาะที่มีการออกแบบทั้งด้านการใช้งาน และความปลอดภัย

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIS 5G Solution สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/business/enterprise/technology-and-solution/5G-and-iot

วันที่เผยแพร่ 20 ตุลาคม 2565

Reference

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที