AIS เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ทำรายได้รวม 46,234 ล้านบาท เติบโต 9.1% โชว์ความแข็งแกร่งฐานะผู้นำในทุกมิติ ผู้ใช้บริการ 5G โตต่อเนื่องกว่า 41% จากไตรมาสก่อน ฝั่งธุรกิจเน็ตบ้านผู้ใช้บริการแตะ 2.1 ล้านราย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Cognitive Tech-Co

AIS เผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ของปี 2565 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 46,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้านฐานผู้ใช้บริการ 5G เติบโตกว่า 41% จากไตรมาสก่อน รวมมากกว่า 5.5 ล้านราย ในฝั่งของธุรกิจ AIS Fibre ยังมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมีฐานลูกค้ารวมแตะที่ 2.1 ล้านราย ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยบวกมาจากการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 และมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็ยังคงมีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามด้วยความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น AIS ได้พัฒนาและขยายโครงข่าย 5G ด้วยการติดตั้งสถานีฐานที่ใช้งานบนคลื่นความถี่ต่ำและคลื่นความถี่สูงทั่วประเทศ ทำให้การให้บริการ 5G มีความครอบคลุมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 85% ของพื้นที่ประชากร ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบ 30,000 ล้านบาท รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งการใช้งานทั่วไปและการใช้งานด้านธุรกิจ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของประเทศให้มีความแข็งแกร่งภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “ในไตรมาสที่ผ่านมาเราเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างทั้งภาวะต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราต้องเพิ่มการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวภาคธุรกิจ และอารมณ์ของผู้บริโภคก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่ในจุดที่จะเป็นแรงขับเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรายังเห็นสัญญาณบวกจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของประเทศที่วันนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับกิจกรรมต่างๆ ภายในประเทศเริ่มกลับมาคึกคักภาครัฐ ภาคธุรกิจเริ่มกลับมาจัดงานอีเว้นต่างๆ ก็น่าจะเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวกลับมาได้”

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 46,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1% กับไตรมาสก่อน โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) ในไตรมาสนี้ที่ 22,091 ล้านบาท ลดลง -3.5% จากปีก่อน และ -1.2% เทียบกับไตรมาสก่อน โดยอัตรา EBITDA Margin ยังคงแข็งแกร่งที่ 48% ในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 6,032 ล้านบาท ลดลง -5.4% เทียบกับปีก่อนและ   -4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีผลการดำเนินงานแยกตามรายธุรกิจดังนี้

  • ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายได้กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ AIS ลดลง -0.3% เทียบกับปีก่อน และลดลง -0.4% จากไตรมาสก่อน ด้านจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 157,300 เลขหมายในไตรมาสนี้ โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการแบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือรวมที่ 45.7 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 33.3 ล้านเลขหมาย และระบบรายเดือน 12.4 ล้านเลขหมาย ทางด้านการให้บริการ 5G AIS มีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้นแล้วมากกว่า 5.5 ล้านราย  เพิ่มขึ้นกว่า 41% จากไตรมาสก่อน จากการพัฒนาและขยายโครงข่าย 5G ด้วยการติดตั้งสถานีฐานที่ใช้งานบนคลื่นความถี่ต่ำและคลื่นความถี่สูงทั่วประเทศ ทำให้ AIS เป็นผู้ให้บริการโครงข่าย 5G ที่สามารถให้บริการครอบคลุมแล้วกว่า 85% ของพื้นที่ประชากร มากที่สุดเป็นอันดับ 1  
  • ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS Fibre ยังคงทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และยกระดับการแข่งขันด้วยมาตรฐานการให้บริการด้วยทีมที่พร้อมดูแลและอยู่เคียงข้างแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สู่ตลาด ด้วยอุปกรณ์ส่งสัญญาณ High Performance รองรับการใช้งานที่ความเร็วแรงระดับ 2Gbps พร้อมนำ AI มาปรับใช้ร่วมกับอุปกรณ์ส่งสัญญาณเพื่อเสริมศักยภาพในการส่งสัญญาณ Wi-Fi อัจฉริยะ ที่สามารถจัดสรรการใช้งานให้สอดรับกับพฤติกรรมหลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ AIS Fibre เติบโต 16% เทียบกับปีก่อน และ 2.2% ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 114,500 ราย ทำให้มีฐานลูกค้ารวมกว่า 2.1 ล้านราย
  • ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีการเติบโต 17% เทียบกับปีก่อน โดยยังคงมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนและเติบโตเคียงข้างภาคธุรกิจไทยให้แข็งแกร่งผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้พร้อมทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ผ่านโซลูชันเครื่องมือดิจิทัลที่ตอบโจทย์ ทั้ง AIS Paragon Platform สำหรับการพัฒนา 5G Use Cases แห่งแรกในประเทศไทย การรุกตลาดบริการ Cloud Security ระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เต็มรูปแบบสำหรับองค์กรภาคธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกจากการทำงานร่วมกับ Cisco รวมถึงยังเปิดตัว AIS Cloud X ระบบนิเวศคลาวด์อัจฉริยะที่เป็นการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังหนุนภาคธุรกิจไทยใช้ดิจิทัลทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วย มาร์เก็ตเพลสซอฟต์แวร์ รายแรกในไทยกับ AIS Biz App Mart ด้วยการนำเสนอโซลูชันและเครื่องมือทางธุรกิจที่ดีที่สุดจากไมโครซอฟท์ โดยทั้งหมดก็ยังคงเป้าหมายเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความสมบูรณ์ของ 5G Ecosystem ให้กับภาคธุรกิจไทยในอนาคต

 “ในไตรมาสนี้ AIS ยังคงทำผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ ภายใต้แรงกดดันจากสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันและความท้าทายมากมาย เราเชื่อว่าหัวใจสำคัญของการจะเป็น Cognitive Tech-Co ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรได้นั้น ต้องอาศัยพลังและความมุ่งมั่นของพวกเรา เพื่อทำให้โครงข่ายอัจฉริยะถูกพัฒนาสู่บริการดิจิทัลที่จะเชื่อมต่อการเติบโตสู่โลกอนาคตได้อย่างสมบูรณ์

ดังนั้น AIS ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการโครงข่ายดิจิทัล นอกเหนือจากการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการแล้ว เรายังมีหน้าที่สำคัญในการทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศมีความแข็งแกร่ง ทำให้เราเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพโครงข่าย และขยายความครอบคลุมของการให้บริการ รองรับความต้องการการใช้งาน ทั้งสำหรับลูกค้าทั่วไป และการใช้งานในองค์กร” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย

วันที่เผยแพร่ 9 พฤศจิกายน 2565

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business