จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่พลิกผัน เป็นปัจจัยที่ทำให้พฤติกรรมและรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากเดิมที่เราต้องไปที่สาขาของธนาคาร หรือตู้เอทีเอ็ม สู่การใช้แอปพลิเคชันในรูปแบบ Mobile Banking ที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทุกธุรกรรมจากที่ใดก็ได้ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินต้องเร่งปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ และสิ่งที่จะมาเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเงินนับต่อจากนี้ไปก็คือ เทคโนโลยี Cloud และ AI ที่นับว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการเงินทั่วทั้งโลก โดยตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป เทคโนโลยี Cloud และ AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างไรกับอุตสาหกรรมการเงินบ้าง เรามาวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กัน
Cloud & AI หัวใจการบริหารความเสี่ยง และเพิ่มความโปร่งใส
จากรายงานของ ETBFSI องค์กรด้านข่าวสารในอุตสาหกรรมการเงินของอินเดียระบุว่า ในปี 2022 ที่ผ่านมา สถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลกต่างทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากในการลงทุนด้านเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับเทคโนโลยี Cloud ทั้งการย้ายข้อมูล รวมไปถึงการพัฒนาระบบให้บริการบน Cloud [1]
นอกจากนั้นแล้วยังมีรายงานจาก Celent Research ที่คาดการณ์ว่า ในปี 2024 องค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินระดับโลกจะมีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไอทีเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มการลงทุนจากปี 2022 ขึ้นไปอีก 5.2% [2] การลงทุนเพิ่มในส่วนนี้นอกจากจะนำมาใช้เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงในธุรกิจแล้ว ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการเงินแถวหน้าก็จะนำ Cloud มาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AI และ Blockchain สร้างระบบการทำงานอัตโนมัติที่อัจฉริยะมากขึ้น เพื่อลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน อันจะช่วยทำให้ทุกธุรกรรมเกิดความรวดเร็ว ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้
กลับมาดูที่อุตสาหกรรมการเงินในบ้านเราบ้าง เทคโนโลยีทั้ง AI และ Cloud ได้เข้ามามีบทบาทกับสถาบันการเงิน ซึ่ง ครอบคลุมตั้งแต่ระบบตอบรับอัตโนมัติ หรือ Chatbot ไปจนถึงการป้องกันการทุจริต หรือการฉ้อโกงรูปแบบต่าง ๆ ที่สำคัญระบบเหล่านี้ยังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกเทคโนโลยี ช่วยให้การทำงานของสถาบันการเงินมีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่ง AI และ Cloud ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลกของอุตสาหกรรมการเงินไปแล้ว ดังนี้
1.ตัวช่วยการลงทุน เป็นการนำ AI เข้ามาช่วยตัดสินใจในการลงทุน เนื่องจากความมีอคติและความรู้สึกของมนุษย์ทำให้การตัดสินใจลงทุนในหลาย ๆ ครั้งเกิดความผิดพลาด รวมไปถึงมนุษย์ไม่สามารถโฟกัสต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งซ้ำ ๆ เป็นเวลานานได้ เพราะในชีวิตของแต่ละคนก็จะมีเรื่องราวที่เข้ามาแตกต่างกัน จึงเป็นเหตุผลที่เทคโนโลยี AI ถูกนำเข้ามาใช้งานในระบบลงทุนอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถช่วยวิเคราะห์และนำเสนอมุมมองต่าง ๆ ให้แก่นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
2.ช่วยวิเคราะห์การอนุมัติสินเชื่อ เทคโนโลยี AI ถูกนำเข้ามาใช้งานในส่วนของการคาดการณ์เพื่อประเมินความเสี่ยงสำหรับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร หรือธุรกิจประกันภัย ระบบจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงิน ตรวจจับการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ เพื่อลดการฉ้อโกง อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของพนักงานว่ามีพฤติกรรมที่ผิดปกติหรือไม่ ช่วยให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
3.ช่วยผลักดันธุรกิจ Fintech Startup ในประเทศไทย Fintech หรือ Financial Technology คือธุรกิจที่นำเอาเทคโนโลยีและธุรกรรมการเงินมารวมเข้าด้วยกัน เปลี่ยนการทำงานรูปแบบเก่า ๆ ให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น เช่น เปลี่ยนจากการชำระค่าสินค้าด้วยเงินสดแบบเดิม เป็นการชำระผ่านออนไลน์ หรือการสแกนด้วย QR Code หรือแม้กระทั่งการ Streaming ในตลาดหุ้นเพื่อให้เกิดการเทรดหุ้นและการซื้อขาย เหล่านี้ก็รวมเรียกว่า Fintech ด้วยเช่นกัน ธุรกิจนี้มีระบบ AI ช่วยผลักดันให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอต่อลูกค้า ที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยี Fintech ที่รองรับกับธุรกิจของตนเอง
4.ช่วยขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้วย Cloud Cloud คือ รูปแบบการประมวลผล และการจัดเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ จะช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การแก้ไข และการดูแลระบบ อีกทั้ง Cloud ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ ทำให้สถาบันการเงินสามารถเลือกจัดเก็บข้อมูลได้ตาม Service ของตัวเอง สิ่งสำคัญมีเพียงอย่างเดียวคือ สถาบันการเงินควรเลือกใช้ผู้ให้บริการ Cloud ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และได้รับการยอมรับ เพื่อให้การเกิดขึ้นของนวัตกรรมต่าง ๆ สอดคล้องกับข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ เพราะข้อมูลคือกุญแจสู่ขุมทรัพย์ในโลกปัจจุบันและอนาคต
Cloud และ AI กลายเป็นกลยุทธ์สร้างความได้เปรียบ
ไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้อุตสาหกรรมการเงินบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ และสร้างความปลอดภัยโปร่งใสในทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ Cloud และ AI จะกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างศักยภาพใหม่ในการแข่งขันให้กับแต่ละองค์กรสถาบันการเงินต่าง ๆ ด้วย เพราะด้วยทุกองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินล้วนแสวงหาหนทางที่จะทำให้องค์กรสามารถลดต้นทุนธุรกิจได้ ซึ่งที่ผ่านมาสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การลงทุนใน Cloud ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการลดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ การเปลี่ยนไปจัดเก็บและประมวลผลบน Cloud เพิ่มความสะดวกให้กับการบริหารจัดการข้อมูลได้มากขึ้น ทำให้องค์กรสามารถนำข้อมูลมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจได้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ ในวันนี้เราจะพบว่าธุรกิจการเงินและการธนาคารต่างแข่งขันกันที่จะเข้าถึงลูกค้า ซึ่งองค์กรใดสามารถที่จะนำข้อมูลที่มีมาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ก็ย่อมจะรู้ว่าลูกค้าต้องการสิ่งใด ทำให้องค์กรนั้น ๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ก่อนคู่แข่ง
นอกจาก Cloud แล้ว ในส่วนของ AI ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ผู้นำในธุรกิจการเงินนำมาใช้คู่กันเพื่อสร้างความได้เปรียบ ต้องยอมรับว่าธรรมชาติของธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินนั้น โครงสร้างของระบบการดำเนินการจะมีความซับซ้อน ซึ่งความซับซ้อนนี้ก็เป็นไปเพื่อให้ทุกธุรกรรมมีความถูกต้อง โปร่งใส ลดความเสี่ยงต่อการทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องของผู้ไม่หวังดี แม้ระบบการคัดกรองตรวจสอบที่เป็นแกนหลักของธุรกิจนี้จะถูกออกแบบมาอย่างดีก็ตาม แต่กระบวนการที่ซับซ้อนนี้ก็กลายเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นความสะดวกสบายในการขอใช้บริการของลูกค้า องค์กรธุรกิจการเงินชั้นนำจึงเลือกที่จะขจัดอุปสรรคด้วยการนำ AI มาใช้เป็นกลยุทธ์ยกระดับการดําเนินงานหลักของธุรกิจการเงิน AI ไม่ใช่แค่เข้ามาช่วยลดความซับซ้อนของระบบเท่านั้น แต่ยังเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล โดยเปลี่ยนข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สร้างโดยองค์กร ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนธุรกิจในขั้นตอนต่าง ๆ ได้ ซึ่งนั่นทำให้องค์กรธุรกิจการเงินแต่ละแห่งมีแนวทางใหม่ในการออกแบบและส่งมอบบริการส่วนบุคคลที่ลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะการส่งมอบบริการใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพราะคนใน Gen ใหม่มักคาดหวังกับประสบการณ์การใช้บริการที่รวดเร็วและปลอดภัย หากองค์กรไหนสามารถที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้ ย่อมทำให้องค์กรนั้นได้เปรียบคู่แข่งเสมอ
จากนี้ไปอุตสาหกรรมการเงินจะต้องจับตามองเทคโนโลยี Cloud และ AI กันอย่างไม่ละสายตา เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นคำตอบของความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมการเงินในยุคถัดไป สำหรับองค์กรในอุตสาหกรรมการเงินของไทยหากต้องการที่จะเร่งการเติบโตของธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และยังขาดที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล AIS Business พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมประสิทธิภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการเงินทุกองค์กร ด้วยการต่อยอดระบบคลาวด์เซอร์วิส และเสริมความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลให้กับองค์กร และยังพร้อมด้วยโซลูชันและบริการด้านไอทีจากทีมงานมืออาชีพที่ไว้วางใจได้ เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานขององค์กรได้ในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” (Growth-Trust-Sustainability) อันจะเป็นการก้าวไปสู่ศักยภาพและอนาคตที่สดใสไปพร้อม ๆ กัน
วันที่เผยแพร่ 6 กรกฎาคม 2566
Reference
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business
สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที