เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2024 และเป็นการเริ่มต้นเปิดกล่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะออกมาพลิกโฉมวงการธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยมีข้อมูลจากสภาหอการค้าไทยได้ระบุว่า “บริบทของเวทีโลกนับจากนี้ไป เทคโนโลยีคือสิ่งที่ควรค่าแก่การได้รับการลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มากกว่าที่จะปล่อยให้คงสภาพเดิม โดยเฉพาะความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI” จึงเป็นเครื่องยืนยันได้แน่นอนว่า ในปี 2024 เทรนด์เทคโนโลยี AI จะเป็นหนึ่งในหลากหลายเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้งานในธุรกิจเพื่อตอบรับความสนใจที่เป็นภาพรวมใหญ่ของเวทีโลก
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปี 2024
มีข้อมูลจากการ์ทเนอร์ได้คาดการณ์ว่า ในปี 2024 จะมีผลิตภัณฑ์และบริการทางเทคโนโลยีถึง 80% ที่เป็นผลงานจากมืออาชีพนอกวงการเทคโนโลยี อันเนื่องมาจากแรงสนับสนุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในวงการเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อรวมจำนวนนักลงทุนเหล่านี้แล้วพบว่า มีสัดส่วนมากกว่าภาพรวมทั้งหมดของตลาดไอที อีกทั้งในปัจจุบันค่าใช้จ่ายของแผนกไอทีในองค์กรขนาดใหญ่ มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 36% ของงบประมาณงานไอทีทั้งหมด
โดยคุณราเจช กานดาสวามี (Rajesh Kandaswamy) รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ได้กล่าวว่า “การบริหารธุรกิจด้านดิจิทัลเปรียบเสมือนกับทีมกีฬา ที่ไม่ได้หมายถึงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือก็คือไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่ในแผนกไอทีอีกต่อไป เพราะการเติบโตทางข้อมูลดิจิทัลมีรูปแบบที่เป็นอิสระ ดังนั้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคคลที่มีความสามารถจากหลากหลายภาคส่วน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเฉพาะผู้เชี่ยวชาญในแผนกไอที และการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างเสรีได้”
นอกจากนี้คุณราเจซยังได้กล่าวเสริมว่า “ในช่วงปี 2024 นี้ จะได้เห็นการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการพัฒนาของผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น เพราะการเกิดขึ้นของแหล่งข้อมูลใหม่ ๆ ทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรม จากกลุ่มนักธุรกิจรายย่อย ดังนั้นนักธุรกิจในวงการเทคโนโลยีจะต้องขยายแนวความคิด และเริ่มต้นกระจายแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่กลุ่มคนใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้มือสมัครเล่นได้เข้ามาสู่สนามใหญ่ จึงจะผลักดันให้เกิดความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมที่มีความสามารถในการทำงานที่หลากหลายมากขึ้น”
5 เทรนด์เทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนโลกในปี 2024
ปี 2024 เทคโนโลยีจะมีบทบาทในการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ อันเนื่องมาจากได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเติบโตขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G และ AI รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ 5 เทรนด์นี้
1. การผสมผสานกันระหว่าง 5G และ IoT
เครือข่ายเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G ที่ครอบคลุมตามเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมไปถึงทั่วประเทศไทย จะขยายศักยภาพการทำงานของระบบ IoT ให้มีความเสถียรมากขึ้น พร้อม ๆ กับการเข้ามาแบ่งสัดส่วนในตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า และการดำเนินการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รวมไปถึงความต่อเนื่องของสัญญาณสำหรับการแพทย์และการผ่าตัดทางไกล ทั้งหมดนี้จะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเวลาแฝงที่ต่ำ ปัญหาเรื่องสัญญาณกระตุก หน่วง หรือหยุดการทำงานในขณะที่กำลังใช้งานจะหมดไป
และด้วยความก้าวหน้าของระบบ IoT บวกกับความต้องการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น หากระบบ IoT ได้รับการผลักดันและสนับสนุนจากเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G อย่างเต็มรูปแบบ ในปีหน้าจะเป็นการเริ่มต้นวิถีชีวิตใหม่ ที่สามารถคาดหวังความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้อย่างไร้อุปสรรคได้ นับว่าเป็นการเปิดประตูสู่โลกไร้พรมแดนที่มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น เป็นการส่งสัญญาณถึงอนาคตที่ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป
2. Generative AI
ระบบประมวลผลที่มีความโดดเด่นด้านการสร้างวิดีโอ ภาพ และเสียงแบบอัตโนมัติ โดยใช้การเรียนรู้และการประมวลผลทางคณิตศาสตร์จากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้รับการถ่ายทอด มาสร้างเป็นผลลัพธ์ที่มีความสมจริงและแม่นยำในเวลาอันรวดเร็ว ที่สามารถช่วยในการทำงานที่มีความซับซ้อนได้ เช่น ระบบการเงินการลงทุน การดูแลสุขภาพ และการทำงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น
นอกจากนี้ในปี 2024 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยี Generative AI เป็นองค์ประกอบจะมีราคาที่ถูกลง อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีนี้ได้รับการศึกษาและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนเข้ามามีบทบาทอย่างลึกซึ้งในทุกสายงานอาชีพ ราคาจึงไม่แพงเหมือนในช่วงเริ่มต้นการพัฒนา จึงช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่มีศักยภาพได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้านความต้องการของเวทีโลก ที่มุ่งเน้นให้เทคโนโลยีอันทันสมัยจะต้องสร้างมาตรฐานระดับโลก ที่มีทั้งความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความเสมอภาค และที่สำคัญ ด้วยศักยภาพของ Generative AI ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงช่วยให้ระบบมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบต่าง ๆ ได้
3. Quantum Computer
ควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer) กับการประมวลผลรูปแบบใหม่ด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน กำลังจะเข้ามาปลดล็อกการคำนวณที่มีความซับซ้อนให้เหลือเพียง 10 วินาที ซึ่งคอมพิวเตอร์ธรรมดาไม่สามารถทำได้ หรือหากทำได้ก็ต้องใช้เวลานับ 10 ปี อนาคตของการเปิดประตูใหม่ทางการแพทย์ ที่จะสามารถคิดค้นตัวยาอันลึกลับ การพยากรณ์โรคล่วงหน้าโดยที่ไม่รอให้ผู้ป่วยมีอาการ หรือแม้แต่การสร้างแบบจำลองทางการเงิน ที่จะทำได้ง่ายและแม่นยำขึ้น
และเรื่องที่น่าตื่นเต้นและท้าทายสำหรับปี 2024 คือ การมาพบกันของควอนตัมคอมพิวเตอร์ กับ Generative AI ที่ศักยภาพของควอนตัมคอมพิวเตอร์จะช่วยให้ AI มีความคิดสร้างสรรค์ และมีไอเดียแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการฝึกฝนจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ถ่ายทอดข้อมูลจำนวนมหาศาลให้ด้วยเวลาที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้อย่างราบรื่น จนสามารถสร้างพิมพ์เขียวของยาชนิดใหม่ขึ้นมาได้อย่างสมจริง ตั้งแต่รูปภาพ องค์ประกอบ การวิเคราะห์คุณสมบัติ และความน่าจะเป็น
และหลังจากที่หลายหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของควอนตัมคอมพิวเตอร์กันมาหลายปี ในปี 2024 นี้ ความปลอดภัยในการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งของควอนตัมคอมพิวเตอร์ก็พร้อมสำหรับการเปิดตัวแล้ว
4. Edge Computing และระบบประมวลผลของ Cloud
นอกจากในปี 2024 จะมีควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่จะเข้ามาช่วยฝึกฝนการเรียนรู้ของ Generative AI แล้ว ยังมีระบบประมวลผลของ Cloud ที่มีศักยภาพด้านการปรับขนาดให้เล็กหรือใหญ่ได้ตามต้องการ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้ Generative AI มีการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ
ในขณะที่ Edge Computing ได้กลายเป็นหัวใจหลักในการทำงานแบบตอบสนองได้ทันทีของแอปพลิเคชัน ด้วยการประมวลผลที่ลดขั้นตอนอันซับซ้อนลง ช่วยให้การทำงานมีความหน่วงน้อยลง เหมาะสำหรับการทำงานแบบเรียลไทม์ อย่างการใช้รถยนต์แบบขับขี่อัตโนมัติ และการสร้างภาพทางการแพทย์ที่มีความซับซ้อนสูง
ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดนี้จะถูกนำมาผสานกัน ด้วยความชาญฉลาดของ Generative AI ที่สามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้แบบเรียลไทม์ โดยมี Edge Computing เป็นตัวช่วยเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ให้ และมีระบบประมวลผลของ Cloud เป็นตัวช่วยสำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก
5. เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน
เทคโนโลยีถูกนำมาสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในปี 2024 จากการนำ AI และ Generative AI มาประยุกต์ใช้งาน โดยในภาคอุตสาหกรรม AI จะช่วยตรวจสอบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งระบบนิเวศ คุณภาพอากาศ ปริมาณการใช้พลังงาน และตรวจสอบสภาพของโรงงานอุตสาหกรรม
ส่วน Generative AI จะช่วยออกแบบและสร้างสรรค์โซลูชันที่มีความยั่งยืน อย่างการคิดค้นเทคนิคการใช้พลังงานหมุนเวียน การออกแบบและกำหนดจุดเส้นทางอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การออกแบบแฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างแพลตฟอร์มที่ส่งเสริมความยั่งยืน เป็นต้น
ปี 2024 จะกลายเป็นยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งการเติบโตของ AI, การประมวลผลในเวลาอันน่าทึ่งของ ควอนตัมคอมพิวเตอร์, การบูรณาการใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G เข้ากับเทคโนโลยีอื่น ๆ และการส่งเสริมให้เทคโนโลยีมีความยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เรื่องท้าทายเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่ง AIS Business พร้อมเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมนวัตกรรมแห่งอนาคตด้วยความรับผิดชอบ เพื่อให้เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอย่างสอดคล้องกับความต้องการของเวทีโลก ด้วยการให้บริการโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นมากที่สุด ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย พร้อมทีมงานผู้มีความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมไปถึงแพลตฟอร์มจากพาร์ทเนอร์ระดับโลก และการให้บริการด้าน ICT Solution อย่างครบวงจร เพื่อส่งเสริมให้เทคโนโลยีอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างราบรื่นและยั่งยืน
วันที่เผยแพร่ 20 ธันวาคม 2566
Reference
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business