สำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน องค์กรชั้นนำทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เทคโนโลยีเครือข่ายข้ามประเทศจึงเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมสำคัญที่จะผลักดันองค์กรสู่ระดับสากล ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเป็นสถาบันการเงินที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดในการทำธุรกรรม หรือบริษัทผลิตสินค้าที่ต้องเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก หรือแม้กระทั่งธุรกิจที่ต้องมีการสื่อสารแบบเรียลไทม์กับลูกค้าต่างประเทศ เทคโนโลยีเครือข่ายที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับองค์กร มีตัวเลือกหลัก 2 รูปแบบที่องค์กรทั่วโลกส่วนใหญ่เลือกใช้ คือ
1. IPVPN (IP Virtual Private Network)
2. IPLC (International Private Leased Circuit)
ทั้ง 2 เทคโนโลยีมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน เพื่อให้เข้าใจง่ายลองจินตนาการว่าคุณต้องส่งเอกสารสำคัญจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ไปยังสาขาที่สิงคโปร์ โดยให้บริการเชื่อมต่อเครือข่ายเปรียบเสมือนถนนที่คุณใช้ส่งเอกสารนั้น คุณมีทางเลือกถนน 2 แบบ ดังนี้
1. IPVPN ถนนสาธารณะที่มีระบบรักษาความปลอดภัย
IPVPN เปรียบเสมือนการส่งเอกสารของคุณผ่านถนนสาธารณะที่คนทั่วไปใช้ร่วมกัน แต่เอกสารของคุณจะได้รับการปกป้องพิเศษ เหมือนกับการจ้างรถตู้ที่มีรหัสล็อกและการ์ดรักษาความปลอดภัยนำเอกสารของคุณไปถึงจุดหมาย แต่อย่างไรก็ตาม รถของคุณต้องใช้ถนนร่วมกับรถคันอื่น ๆ ซึ่งอาจเจอการจราจรติดขัดระหว่างทาง แต่ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เอกสารของคุณจึงปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ข้อดีคือของการใช้ IPVPN คือ คุณสามารถส่งเอกสารไปได้หลายจุดหมายในเวลาเดียวกัน เช่น ส่งไปยังสาขาสิงคโปร์ ฮ่องกง และโตเกียวพร้อมกัน โดยใช้ระบบขนส่งเดียวกัน และค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงมากเพราะคุณแชร์ต้นทุนการใช้ถนนกับผู้อื่น แต่เพราะต้องใช้เส้นทางร่วมกับคนอื่นนี่เอง ทำให้บางครั้งความเร็วในการขนส่งอาจไม่แน่นอน ในช่วงที่มีการจราจรหนาแน่น การส่งเอกสารของคุณจึงอาจช้าลงบ้าง
2. IPLC ถนนส่วนตัวที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับคุณ
IPLC เปรียบเสมือนการที่คุณได้สร้างถนนส่วนตัวระหว่างสำนักงานในกรุงเทพมหานคร กับสาขาที่สิงคโปร์โดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่มีใครสามารถใช้ถนนเส้นนี้ได้นอกจากคุณ ด้วยถนนส่วนตัวนี้ คุณจึงสามารถขนส่งเอกสารได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอตลอดเวลา ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัดเพราะไม่มีรถคันอื่นมาแย่งถนนกับคุณ ความเร็วในการขนส่งจึงคาดการณ์ได้ และมีความปลอดภัยสูงมาก
อย่างไรก็ตาม การสร้างถนนส่วนตัวนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูง และถนนส่วนตัวนี้เชื่อมต่อเฉพาะ 2 จุดเท่านั้น ถ้าคุณต้องการมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ หรือเชื่อมต่อกับสาขาอื่น คุณต้องสร้างถนนส่วนตัวใหม่ ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้งบประมาณและใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น
เมื่อองค์กรตัดสินใจขยายธุรกิจสู่ตลาดระหว่างประเทศ เทคโนโลยีเครือข่ายที่เลือกใช้จะเป็นตัวกำหนดทั้งประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย และต้นทุนการดำเนินงาน ทั้ง IPVPN และ IPLC ต่างเป็นโซลูชันที่มีคุณลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจพื้นฐานการทำงาน ข้อดี และข้อจำกัดของแต่ละเทคโนโลยีจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ลองมาพิจารณาแต่ละเทคโนโลยีอย่างละเอียดเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
IPVPN เครือข่ายส่วนตัวเสมือนบนโครงสร้างสาธารณะ
IPVPN คือเทคโนโลยีที่สร้างเครือข่ายส่วนตัวเสมือนบนโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายสาธารณะ หรือเครือข่ายของผู้ให้บริการ โดยใช้หลักการเข้ารหัสและการสร้างอุโมงค์ข้อมูล (Tunneling) ทำให้เกิดการสื่อสารที่ปลอดภัยระหว่างสำนักงานหรือสาขาในประเทศต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี Multi-Protocol Label Switching (MPLS) ที่ช่วยให้ข้อมูลเดินทางผ่านเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ IPVPN ยังมาพร้อมกับจุดแข็งที่ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวในการขยายเครือข่ายระหว่างประเทศ ข้อดีคือสามารถประหยัดงบประมาณอย่างเห็นได้ชัด โดยมีต้นทุนต่ำกว่า IPLC ประมาณ 30-50% เนื่องจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว และยังมีความยืดหยุ่นสูงในการขยายขนาดเครือข่าย และสามารถปรับเปลี่ยนแบนด์วิดท์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังครอบคลุมพื้นที่กว้างและพื้นที่ห่างไกลด้วย
อย่างไรก็ตาม IPVPN มีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพที่อาจไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากใช้โครงสร้างร่วมกับผู้อื่น ในช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่น อาจเกิดความล่าช้า จึงไม่เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการการตอบสนองแบบทันที เช่น ระบบซื้อขายหุ้นแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการไม่สามารถรับประกันแบนด์วิดท์ 100% ทำให้บางช่วงเวลาอาจได้รับแบนด์วิดท์น้อยกว่าที่ตกลงไว้
IPLC วงจรเช่าเหมาส่วนตัวระหว่างประเทศ
IPLC คือวงจรสื่อสารส่วนตัวแบบเช่าเหมาที่สร้างการเชื่อมต่อโดยตรงและถาวรระหว่าง 2 จุดหรือมากกว่านั้น บนเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรคมนาคมระหว่างประเทศ โดยไม่มีการแชร์ทรัพยากรกับผู้ใช้รายอื่น IPLC ทำงานเสมือนเป็น “ท่อข้อมูล” เฉพาะ ที่เชื่อมต่อจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยตรง ข้อดีของ IPLC คือมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าด้วยความเสถียรและความเร็วที่สม่ำเสมอ แบนด์วิดท์คงที่ ความหน่วงเวลาต่ำ เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการการตอบสนองทันทีและเสถียรสูง มีความปลอดภัยสูงเพราะแยกจากเครือข่ายสาธารณะโดยสมบูรณ์ พร้อมรับประกันแบนด์วิดท์ 100%
ส่วนข้อด้อยของ IPLC คือ มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า IPVPN มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าในแง่การบริหารจัดการและการปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง รวมทั้งมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้บริการ โดยอาจไม่สามารถให้บริการได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาหรือพื้นที่ห่างไกล
การเลือกเทคโนโลยีเครือข่ายระหว่างประเทศที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจระดับโลก องค์กรต่าง ๆ สามารถเลือกใช้ IPVPN หรือ IPLC โดยพิจารณาจากความต้องการเฉพาะ งบประมาณ และลักษณะการดำเนินธุรกิจ
เมื่อไหร่ที่ควรเลือกใช้ IPVPN
สำหรับองค์กรที่ต้องคำนึงถึงเรื่องงบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญ IPVPN เป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และต้องการความคล่องตัวในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย มีแผนขยายตัวอย่างรวดเร็วหรือมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจบ่อยครั้ง ด้วยระยะเวลาในการติดตั้งหรือปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วกว่า จึงตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวสูง นอกจากนี้ IPVPN ยังเหมาะสำหรับธุรกิจที่สามารถยอมรับความผันผวนของประสิทธิภาพเครือข่ายได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะระบบที่ไม่ได้ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์ที่ละเอียดถึงระดับมิลลิวินาที เช่น ระบบอีเมล ระบบจัดการเอกสาร หรือระบบบริหารงานทั่วไป ซึ่งความผันผวนเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจโดยรวม ตัวอย่างประเภทธุรกิจที่เหมาะกับการเลือกใช้ IPVPN เช่น
เมื่อไหร่ที่ควรเลือกใช้ IPLC
IPLC เป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเสถียรและความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะองค์กรที่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับโซลูชันระดับพรีเมียม เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เช่น ธุรกิจที่ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์ ธุรกิจที่ต้องมีการส่งข้อมูลขนาดใหญ่ระหว่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ องค์กรที่ให้ความสำคัญสูงสุดต่อกฎระเบียบหรือข้อบังคับด้านความปลอดภัย การมีวงจรเช่าเหมาแบบส่วนตัวที่แยกออกจากเครือข่ายสาธารณะโดยสิ้นเชิงและมีการรับประกันแบนด์วิดท์ 100% จะช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างครบถ้วนและมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล ตัวอย่างของธุรกิจที่เหมาะกับการใช้ IPLC เช่น
AIS Business เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายระหว่างประเทศชั้นนำที่พร้อมให้บริการทั้ง IPVPN และ IPLC ที่มีคุณภาพสูง ด้วยโครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกและทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา และมีจุดเด่นที่องค์กรต่าง ๆ มั่นใจได้ คือ
AIS International IP VPN
AIS International IP VPN มอบบริการเครือข่ายส่วนบุคคลเสมือนบนเน็ตเวิร์กระหว่างประเทศที่เน้นความปลอดภัยระดับสูง เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องส่งข้อมูลสำคัญระหว่างประเทศ ด้วยจุดเด่นการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อกับ Singtel เพียงรายเดียวในประเทศไทย พร้อมโครงข่ายที่ครอบคลุม 422 จุดใน 362 เมืองใหญ่ทั่วโลก และมีการเชื่อมต่อทั้งเส้นหลักและเส้นสำรองไปยังประเทศในกลุ่ม CLM (กัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์) บนภาคพื้นดิน ทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด
AIS International Private Leased Circuit (IPLC)
AIS IPLC เป็นบริการเช่าวงจรสื่อสารส่วนตัวระหว่างประเทศความเร็วสูงแบบส่วนตัว ที่สามารถเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อได้ทั้งแบบจุดต่อจุด (Point-to-Point) และแบบจุดต่อหลายจุด (Point-to-Multipoint) โดยสามารถเลือกเชื่อมต่อตรงจากจุดเริ่มต้นครอบคลุมทั่วประเทศไทยผ่านโครงข่าย AIS ตรงไปยังปลายทางทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม, มาเลเซีย และสิงคโปร์ พร้อมคุณสมบัติ Guaranteed Bandwidth ที่รับประกันความเร็วตามบริการที่เลือกใช้ และวงจรส่วนตัวที่ไม่แชร์กับผู้ใช้งานรายอื่น ทำให้การรับ-ส่งข้อมูลมีความเร็วและเสถียร อีกทั้งยังมีความปลอดภัยจากการถูกโจมตีหรือดักจับข้อมูล เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการส่งข้อมูลธุรกิจที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสำคัญ
การเลือกเทคโนโลยีเครือข่ายที่เหมาะสมเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ AIS Business พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนระบบเครือข่ายที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณอย่างตรงจุด โดย AIS Business มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยวิเคราะห์ความต้องการของคุณ เพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น IPVPN เพื่อความยืดหยุ่นและประหยัดต้นทุน หรือ IPLC สำหรับความเสถียรและความปลอดภัยระดับสูงสุด ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด มีขนาดเล็กหรือใหญ่ กำลังเริ่มต้นขยายสู่ตลาดต่างประเทศหรือต้องการปรับปรุงเครือข่ายที่มีอยู่ AIS Business พร้อมมอบบริการมารตฐานระดับสากลที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของคุณ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมบริการ IPLC จาก AIS Business
วันที่เผยแพร่ 27 พฤษภาคม 2568
แหล่งอ้างอิง
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business
© 2024 Advanced Info Service PLC. All rights reserved.