How to มอบประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าด้วยพลังของ 5G

              ภาคธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันกำลังเผชิญความท้าทายจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซ ที่เปิดฉากการแข่งขันด้วยการมอบประสบการณ์ที่แตกต่างไปในการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ นั่นทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าปลีกพยายามเร่งปรับตัวให้ทันต่อเทรนด์การจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภคในวันนี้ กลยุทธ์หนึ่งที่ทางผู้ประกอบการอุตสาหกรรมค้าปลีกเลือกที่จะนำมาใช้ก็คือ การมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าด้วยประสิทธิภาพและความทันสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ยิ่งในขณะนี้เทคโนโลยีเครือข่ายอัจฉริยะอย่าง 5G ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลไกสำคัญในการยกระดับธุรกิจทั่วโลกแล้ว ยิ่งสะท้อนว่า 5G เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเกิดความแตกต่างและมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขัน แต่ปัญหาก็คือ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจค้าปลีกจำนวนมากยังไม่ทราบว่าควรจะประยุกต์ใช้พลังของ 5G ไปใช้สร้างประสบการณ์ใหม่กับลูกค้าในธุรกิจได้อย่างไร ครั้งนี้จึงมีแนวทางในเรื่องนี้มามอบให้กับท่านผู้ประกอบการ

ใช้พลังของ 5G สร้างร้านค้าแห่งอนาคต

              ลองจินตนาการดูว่าหากเป็นตัวเราเองที่เดินเข้าไปที่ร้านค้าปลีกสักแห่งหนึ่ง แล้วการเลือกซื้อสินค้าเปลี่ยนไปจากเดิมและกลายมาเป็นรูปแบบนี้

  1. คุณหยิบมือถือเปิดไปที่แอปพลิเคชันของร้านค้าปลีกแห่งนั้นแล้วอัปโหลดรายการสินค้าที่คุณต้องการซื้อเข้าไปในระบบแอปพลิเคชัน
  2. จากนั้นเครือข่ายอัจฉริยะ 5G ที่ทรงประสิทธิภาพทำงานได้อย่างรวดเร็วก็จะทำการอัปโหลดข้อมูลดังกล่าวนี้เข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของร้านค้าปลีกที่มีการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยประมวลผล
  3. เพียงเวลาไม่ถึงนาที AI ก็ประมวลผลเสร็จและส่งข้อมูลกลับมาแสดงผลยังแอปพลิเคชัน โดยเป็นการปักหมุดสินค้าตามที่เราต้องการว่าอยู่ในโซนชั้นวางสินค้าไหน พร้อมกับรายงานสถานะของสินค้านั้น ๆ ให้เราได้ทราบเลยว่าสินค้ามีอยู่ที่ Shelf หรือไม่ หากไม่มีที่ Shelf ในสต๊อกของทางร้านมีหรือไม่ แล้วสินค้านั้น ๆ ราคาปัจจุบันคือเท่าไหร่ เป็นสินค้าที่ร่วมรายการโปรโมชันของทางร้านหรือไม่
  4. เราไปหยิบสินค้าใส่ตะกร้า และสแกนจ่ายค่าสินค้าชิ้นต่าง ๆ ผ่านมือถือ ตัดเงินผ่านระบบ Wallet ของทางร้านแบบอัตโนมัติ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปรอต่อคิวชำระเงินที่หน้าแคชเชียร์
  5. และเมื่อได้สินค้าครบตามต้องการแล้ว คุณก็สามารถเดินออกจากร้านค้าปลีกแห่งนั้นได้ทันที มารู้ตัวอีกทีการซื้อสินค้าของคุณก็จบทุกขั้นตอนผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือไปเรียบร้อยแล้ว

              หากมีร้านค้าปลีกแบบนี้ขึ้นจริงจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าของเราสักแค่ไหน และจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเลือกซื้อสินค้าไปได้มากเพียงไร และไม่ว่าจะไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลีกนี้สาขาใดในประเทศ ทุกสาขาก็จะเป็นรูปแบบนี้เหมือนกันหมด นี่คือภาพของร้านค้าปลีกแห่งอนาคตที่ไม่ไกลเกินความจริง เพราะเทคโนโลยี 5G ที่มีศักยภาพให้ Bandwidth ที่สูงขึ้นในขณะที่ค่าความหน่วงลดลง ทำให้การส่งถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่ทำได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว นั่นจึงทำให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะพัฒนาร้านค้าไปสู่การเป็นร้านปลีกแห่งอนาคตเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ง่ายและสะดวกยิ่งกว่าให้กับลูกค้าได้นั่นเอง

สื่อสารได้ตรงจุดกับมัลติมีเดียสุดล้ำ

              แน่นอนเลยว่าผู้ประกอบการในภาคธุรกิจค้าปลีกมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งมอบเนื้อหาและคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวของทางร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบถึงข่าวสาร สินค้าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ราคาสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงใกล้ ๆ นี้ของทางร้านค้า แต่การใช้สื่อแบบเดิม ๆ ก็อาจไม่ตอบโจทย์ในการสื่อสารในยุคนี้สักเท่าไหร่ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการสื่อสารอาจไปไม่ถึงการรับรู้ของผู้บริโภค หรือไปได้ไม่ทั่วถึง อย่างที่ต้องการ ขณะที่งบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ก็ยังคงสูงอยู่เช่นเดิม เมื่อเป็นแบบนี้แล้วการนำพลังของ 5G เข้ามาใช้ยกระดับการสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ ที่ทันสมัยอย่างเช่น

  • ป้ายโฆษณาดิจิทัลแบบอัจฉริยะ
  • จอแสดงผลอัจฉริยะภายในร้าน
  • สื่อสารบนโลกเสมือนผ่าน Metaverse เป็นต้น

              ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถปรับการสื่อสารได้อย่างเรียลไทม์ก็ดูจะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพราะสามารถสื่อสารแบบเจาะจงลูกค้าได้เป็นรายบุคคล และรูปแบบการสื่อสารจะสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น โดยทางผู้ประกอบการสามารถนำเทคโนโลยีอย่าง Computer Vision อันเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า อย่างการจดจำใบหน้าของลูกค้าแต่ละรายและนำมาวิเคราะห์ว่าลูกค้าแต่ละรายนั้นซื้อสินค้าใดไปบ้าง ลูกค้ามักเลือกซื้อสินค้าประเภทไหนหรือยี่ห้ออะไรเป็นประจำ ลูกค้าใช้เวลาในการเลือกซื้อแต่ละรายการนานแค่ไหน โดยเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาปรับใช้ร่วมกันกับ 5G

              เมื่อ Computer Vision เก็บข้อมูลลูกค้าแล้ว เครือข่ายที่ทรงพลังอย่าง 5G ก็จะช่วยให้การส่งข้อมูลจำนวนมากกลับไปประมวลผลทำได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่วิเคราะห์ประมวลผลแล้วก็จะถูกนำมาใช้งานแสดงผลผ่านสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัยต่าง ๆ ซึ่งก็จะต้องอาศัย 5G ในการส่งข้อมูลมาแสดงผลบนหน้าจอและอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกเช่นกัน ตรงนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้า เพราะผู้ประกอบการจะสามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าที่น่าจะตรงกับความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงได้ตั้งแต่ลูกค้ายังไม่เข้าร้าน อาจแสดงโฆษณาผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และเมื่อลูกค้าไปถึงหน้าร้านภาพโฆษณาสินค้าเดิมก็จะปรากฏขึ้นผ่านป้ายโฆษณาดิจิทัลแบบอัจฉริยะ จนลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้าด้านใน จอแสดงผลอัจฉริยะภายในร้านที่อาจจะติดตั้งไว้หน้า Shelf สินค้าก็ยังโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าชิ้นนั้นอีกครั้ง หรือช่วยบอกราคาที่อัปเดตที่สุดให้ลูกค้าได้ทราบ ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าได้พบกับความแปลกใหม่ในการจับจ่ายได้

ส่งมอบสินค้าในรูปแบบใหม่

              ปกติแล้วเมื่อลูกค้ามาซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลีกด้วยตนเองก็จะต้องหอบหิ้วสินค้ากลับไปด้วยตนเอง ยกเว้นสินค้าชิ้นใหญ่หรือมีจำนวนมากทางร้านจึงอาจจะมีบริการจัดส่ง ซึ่งนี่ก็เป็นประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่วันนี้ผู้ประกอบการมอบประสบการณ์ใหม่ในเรื่องนี้ให้กับลูกค้าได้ เพียงนำเทคโนโลยี 5G มาสร้างระบบการจัดส่งอัตโนมัติ โดยสามารถที่จะนำมาใช้งานกับระบบการจัดส่งระยะใกล้ ๆ ก่อนก็ได้ อาจพัฒนาระบบเชื่อมโยงกับหุ่นยนต์ส่งสินค้า เมื่อลูกค้าหยิบสินค้าและทำการชำระเงินเรียบร้อย หุ่นยนต์ส่งสินค้าก็จะมารับสินค้าไปเข้าคลังสินค้า เพื่อให้พนักงานเริ่มจัดส่งได้ในทันที ซึ่ง 5G ที่เสถียรและรวดเร็วจะทำให้การทำงานของหุ่นยนต์ไม่มีสะดุด การโอนข้อมูลระหว่างหุ่นยนต์ไปสู่พนักงานจัดส่งก็จะรวดเร็วต่อเนื่องและแม่นยำ ตรงนี้ก็นับเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถประยุกต์ใช้ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้เช่นกัน

              จากที่กล่าวมา 5G สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจค้าปลีกได้หลากหลายรูปแบบมาก และเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากในการช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและความประทับใจมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบันการประยุกต์ใช้ 5G เพื่อธุรกิจนั้นยังถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับผู้ประกอบการและองค์กรต่าง ๆ การจะประยุกต์ใช้ 5G ให้เกิดประสิทธิภาพกับธุรกิจนั้นยังมีความซับซ้อนในเชิงเทคนิคที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจอีกมากมาย ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรมีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัลและ 5G คอยให้คำแนะนำ ซึ่ง AIS Business ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นพันธมิตรที่ดีในการร่วมออกแบบโครงสร้างเพื่อรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G เพื่อธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยีและโซลูชันที่ตอบโจทย์และทีมงานที่เชี่ยวชาญจึงทำให้เราพร้อมที่ก้าวไปในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อลูกค้าเคียงคู่กับธุรกิจของคุณ

วันที่เผยแพร่ 15 กันยายน 2565

Reference

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : business@ais.co.th
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที